#BigMatch4K แดงเดือด 2019 อุ่นเครื่องกับทุกเรื่องต้องรู้
22 กุมภาพันธ์ 2562 1,733
สุดสัปดาห์นี้ พรีเมียร์ลีก มีโปรแกรมบิ๊กแมตช์ที่แฟนบอลทั่วโลกเฝ้ารอคอย เพราะโปรแกรมแดงเดือด ภาค 2 สำหรับซีซั่นนี้ได้โคจรกลับมาแล้ว และมีหลากหลายประเด็นที่น่าจับตามองสำหรับสงคราม “เรด วอร์” ในครั้งนี้
และนี่คือ 8 ประเด็นที่น่าจับตามอง ก่อนที่คู่นี้จะบรรเลงสงครามแข้งกันในวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลา 21.05 น. โดยมี โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นสมรภูมิ
1.เดิมพัน?
เกมนี้เป็นเกม พรีเมียร์ลีก เกมที่ 27 ของทั้ง 2 ทีม โดย 3 คะแนนเกมนี้ ต้องถือว่าเป็นเดิมพันครั้งใหญ่ เพราะหาก ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะได้ (หรืออย่างน้อยมี 1 แต้ม) พวกเขาจะกลับไปเป็นจ่าฝูงทันที เพราะสัปดาห์นี้ แมนฯซิตี้ ที่เล่นเกม 27 ไปแล้ว ต้องเล่นนัดชิงฯ ลีก คัพ กับเชลซี ในวันอาทิตย์แทน ขณะที่ แมนฯยูไนเต็ด หากชนะได้ พวกเขาจะรักษาอันดับ 4 ในสัปดาห์นี้ได้อย่างแน่นอน
2.ฟอร์มล่าสุด?
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พา ผีแดง บุกไปปราบ เชลซี 2-0 ในเอฟเอ คัพ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ พา ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอบาเยิร์น 0-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คืนวันอังคาร ดังนั้น ในประเด็นฟิตเนส คงไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกันมากนัก
3.ตัวผู้เล่น?
แมนฯยูไนเต็ด ชวดใช้งาน เจสซี่ ลินการ์ด และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่ร่างกายไม่พร้อม ขณะที่ ดาบิด เด เคอา จะกลับมาเฝ้าเสาอีกครั้ง หลังจากได้พักในเกมเอฟเอ คัพ ส่วน ลิเวอร์พูล มีข่าวดีเพราะ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่ติดโทษแบนในเกมยุโรป จะกลับมาประจำการคุมเกมรับได้อีกครั้ง แต่ก็ยังไร้ เดยัน ลอฟเรน รวมถึง โจ โกเมซ แต่ 3 ประสานในแนวรุกอย่าง ซาดิโอ มาเน่,โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
4.กุนซือ?
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โชว์ฟอร์มในการคุมทีม ผีแดง แม้จะแพ้ไปแล้ว 1 นัด (ต่อ เปแอสเช) แต่สถิติโดยรวมของกุนซือเพฌฆาตหน้าทารกดีเหลือเกิน จากการคุมทีม 13 นัด ชนะ 11 เสมอ 1 แพ้ 1 แต่ในขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ของ คล็อปป์ ก็ไม่แพ้เกมลีก 26 จาก 27 เกมหลังสุด
5.เฮดทูเฮด?
ภาคแรกของฤดูกาลนี้ที่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ 3-1 และเกมวันนั้น เชอร์ดาน ชาคิรี่ คือตัวแสบ เพราะลงมาในฐานะตัวสำรอง และซัด 2 ประตูท้ายเกมได้ ซึ่งความพ่ายแพ้ในวันนั้น (16 ธันวาคม 2018) ส่งผลให้ โจเซ่ มูรินโญ่ กระเด็นตกเก้าอี้ด้วย
ขณะที่สถิติ Head to head ในการเจอกันของคู่นี้ นับตั้งแต่ยุค พรีเมียร์ลีก เจอกันมา 54 นัด แมนฯยูไนเต็ด ชนะ 28 ลิเวอร์พูล ชนะ 14 เสมอกัน 12 ครั้ง
6.สถิติ?
การยิงประตู : ลิเวอร์พูล จุดนี้เหนือกว่า แมนฯยูไนเต็ด เพราะดาวซัลโวของทีมในลีกคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดไปแล้ว 17 ประตู (แถมเป็นดาวซัลโวร่วมกับ กุน อเกวโร่ อยู่ในตอนนี้ด้วย) ขณะที่ ผีแดง คนที่ยิงเยอะสุดในลีกคือ พอล ป็อกบา ที่ซัดไป 11 ประตู
การแอสซิสต์ : คนที่ทำแอสซิสต์สูงสุดของทั้ง 2 ทีมสถิติสูสีกันมาก โดย พอล ป็อกบา แอสซิสต์ไปแล้ว 8 ประตู ขณะที่เบอร์หนึ่งในการป้อนเป็นประตูของหงส์แดงตอนนี้คือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่จ่ายไป 7 ประตู
การผ่านบอล : เวอร์จิล ฟาน ไดค์ คือคนที่จ่ายบอลมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของลีก (เป็นรอง อายเมริก ลาปอร์ต และจอร์จินโญ่) ด้วยจำนวน 2,115 ครั้ง ส่วนแมนฯยูไนเต็ด คนที่จ่ายบอลเยอะที่สุดในทีมคือ เนมานย่า มาติช ที่จำนวน 1,574 ครั้ง นับเป็นอันดับ 12 ของลีก
การป้องกันประตู : ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตู แมนฯยูไนเต็ด เซฟสวยๆ ไปแล้ว 93 ครั้ง มากเป็นอันดับ 3 ของลีก ส่วน อลิซอน เซฟไปแล้ว 53 ครั้ง
7.ผู้ตัดสิน?
ในเกมแดงเดือดครั้งนี้คือ ไมเคิล โอลิเวอร์ ซึ่งเคยโชว์ฝีไม้ลายมือเป่า แดงเดือด มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรก 12 กันยายน 2015 แมนฯยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะ หงส์แดง 3-1 ส่วนอีกนัด ก็ยังเป็นเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด วันที่ 15 มกราคม 2017 ผลจบลงด้วยการเสมอกัน 1-1 ดังนั้น แฟนๆเดอะค็อป อาจจะมี เสียวๆ กับสถิติการเป่าของไมเคิล โอลิเวอร์บ้าง
8.ห้ามพลาด!
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือด คู่นี้จะล้างตากันในวันอาทิตย์ที่ 24 ก.พ.นี้ เวลา 21.05 น. ทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดระบบ 4K ทางช่อง True 4K (ทรูวิชั่นส์ ช่อง 400) และ beIN Sports 1 (ทรูวิชั่นส์ ช่อง 676)
สนใจสมัครแพ็กเกจ แพลทินัม เอชดี และ โกลด์ เอชดี แพ็กเกจที่ดีที่สุดจากทรูวิชั่นส์ ดูกีฬา สด ครบ มากที่สุด ชมพรีเมียร์ลีก จนจบฤดูกาล 2018/19 สมัครวันนี้ ฟรีค่าประกันอุปกรณ์ทุกจุด พร้อมรับสิทธิ์ ทรูพ้อยท์ 1,000 คะแนน ตั้งแต่วันนี้ – 28 ก.พ. 2562
หรือคุ้มยิ่งขึ้น! สมัครพร้อมบริการ ทรู ไฟเบอร์ 1Gbps ครบ! ทั้งเน็ตไฟเบอร์พร้อมดูรายการดัง สนใจคลิก https://bit.ly/2KR1zgA
เพิ่มเติม โทร. 02-700-8000 ทรูช้อป, ทรูพาร์ทเนอร์, ตัวแทนทรูวิชั่นส์ทั่วประเทศ
RED ARMY FANCLUB
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC